บัตรเอทีเอ็มชิปการ์ด VS แถบแม่เหล็ก เปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มต้องใช้อะไรบ้าง
ปัจจุบันนี้จะพบว่าบัตรเอทีเอ็มนั้นถูกเปลี่ยนให้มาใช้งานเป็นแบบชิปการ์ดกันหมดทุกคนที่มีแล้ว แต่ถึงกระนั้นบางคนก็ยังคงเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงต้องเปลี่ยน แล้วบัตรแบบชิปการ์ดกับบัตรatmแบบแม่เหล็กต่างกันอย่างไร ตอนที่เปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มต้องใช้อะไรบ้าง และเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องวันนี้เราจึงขออาสาพาทุก ๆ คนไปศึกษาข้อมูลที่น่าสนใจเรื่องนี้เอง
ทำไมถึงต้องเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็ม ?
การที่เราต้องทำบัตร atm ใหม่นั้นก็เพราะบัตร atm เดิมที่เป็นแบบแถบแม่เหล็กยังมีการรักษาความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเทคโนโลยีของชิปการ์ดจะมีความปลอดภัยที่สูงมาก ช่วงป้องกันการถูกโจรกรรมข้อมูลจากบรรดามิจฉาชีพไปทำเป็นบัตร atm ปลอมออกมาได้ ช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถทำธุรกรรมการเงินผ่านบัตรเอทีเอ็มได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวลซึ่งจะแตกต่างจากการใช้บัตรเครดิต
บัตรatmแบบชิปการ์ด VS บัตรatmแบบแม่เหล็ก 2024 (2567)
ความต่างของบัตร atm แบบชิปการ์ดนั้นในบริเวณด้านหน้าของบัตรจะมีตัวชิปการ์ดลักษณะสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ติดอยู่ และด้านหลังบัตรจะเป็นแถบแม่เหล็กยาว ๆ สีดำ และมีช่องไว้ให้ผู้ถือบัตรลงลายมือชื่อ แต่ไม่สามารถกดบัตรเงินสดได้เหมือนกับบัตรกดเงินสด
ส่วนบัตรatmแถบแม่เหล็กเป็นแบบไหน ต่างกันอย่างไรนั้น ก็ตรงบริเวณหน้าบัตรจะไม่มีตัวชิปคือเป็นบัตรโล่ง ๆ เปล่า ๆ ส่วนด้านหลังก็จะมีแถบแม่เหล็กสีดำยาว ๆ และมีช่องไว้ให้ผู้ถือบัตรลงลายมือชื่อ
เปลี่ยนบัตร atm ใช้อะไรบ้าง
กรณีเปลี่ยนบัตร atm นั่นสิ่งที่ต้องใช้ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมบัตรเอทีเอ็มแบบเดิมคือแบบแม่เหล็ก และสมุดบัญชีธนาคารที่ตรงตามบัตรatm ไปเปลี่ยน ณ ธนาคารที่ใช้บริการได้ทุกสาขา ทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องไปตามสาขาที่ออกบัตรมาก่อนหน้า
กรณีที่ทำบัตรเอทีเอ็มแบบเดิมมาแล้วยังไม่ครบปีต้องมาเปลี่ยนบัตร atm ใหม่เป็นชิปการ์ด ทางธนาคารจะแสดงความรับผิดชอบโดยโอนค่าธรรมเนียมรายปีคืนซึ่งจะคืนให้ตามจำนวนวันที่คงเหลืออยู่ในบัตรเดิม หรือทางเลือกที่ 2 จะเก็บค่าธรรมเนียมรายปีเมื่อถึงวันครบกำหนดของบัตรเอทีเอ็มเดิม ทั้งนี้ ควรศึกษารายละเอียดของธนาคารตัวเองให้ดี รวมถึงเข้าไปที่เว็บไซต์ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินเพื่อเปรียบเทียบข้อมูลค่าธรรมเนียมของบัตรเอทีเอ็มได้
จริง ๆ แล้วทุก ๆ คนที่มีบัตร atm ต้องเปลี่ยนมาใช้งานตัวชิปการ์ดกันหมดแล้ว เพราะหากใครไม่ได้เปลี่ยนภายในวันที่กำหนดไว้นั่นคือ 15 มกราคม 2567 (2024) บัตรatmแบบแม่เหล็กจะไม่สามารถใช้งานที่ตู้เอทีเอ็มรวมถึงร้านค้าต่าง ๆ ที่จะต้องรูดบัตรได้เลย แต่ทั้งนี้ หากเปลี่ยนไม่ทันจริง ๆ คุณสามารถถอนเงินสด โอนเงินหรือใช้งานกดเงินแบบไม่ใช้บัตร หรือทำธุรกรรมในรูปแบบเดิมแล้วมาใช้ผ่าน Mobile Application ก็ได้เช่นกัน ส่วนการทำบัตรเอทีเอ็มจะไม่สามารถยืมเงินด่วนออนไลน์ได้
